ข้ามไปยังบล็อกหลัก.
:::

งานการเกษตร


ปฏิบัติงานภาคปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับงานการเกษตร การป่าไม้ การเลี้ยงปศุสัตว์ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยตรงในพื้นที่เกษตร ป่าไม้ ฟาร์มปศุสัตว์ ฟาร์มสัตว์น้ำ

เนื้อหางาน

เนื้อหางาน:

ปฏิบัติงานภาคปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับงานการเกษตร การป่าไม้ การเลี้ยงปศุสัตว์ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยตรงในพื้นที่เกษตร ป่าไม้ ฟาร์มปศุสัตว์ ฟาร์มสัตว์น้ำ

  • วันที่ประกาศ :2024/04/10
  • วันที่อัพเดท :2024/07/04

มาตรฐานด้านคุณสมบัติ (คุณสมบัติของชาวต่างชาติและนายจ้าง)

มาตรฐานด้านคุณสมบัติ (คุณสมบัติของชาวต่างชาติและนายจ้าง) :

คุณสมบัตินายจ้าง : มีหนึ่งในเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. งานปศุสัตว์ : มีใบรับรองการจดทะเบียนฟาร์มปศุสัตว์และหรือมีใบรับรองการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ และผ่านการรับรองโดยกระทรวงเกษตร

2. งานการเกษตรและอาหาร:

(1) การเพาะเลี้ยงดอกไม้ : มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 0.5 เฮกตาร์ขึ้นไป และมีหนึ่งในคุณสมบัติที่รับรองโดยกระทรวงเกษตรดังต่อไปนี้

A. ชาวเกษตรหรือกลุ่มชาวเกษตรที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรา 3 ของระเบียบพัฒนาเกษตรกรรม

B. หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการดอกกล้วยไม้จริง

(2) การเพาะปลูกต้นกล้า :

A. นายจ้างประกอบกิจการเพาะปลูกต้นกล้า (ยกเว้นต้นกล้าข้าว) และมีใบรับรองจดทะเบียนธุรกิจเพาะปลูกต้นกล้า ประกอบการเพาะเมล็ด เก็บเมล็ดและเพาะพันธุ์ต้นกล้าของพืชผัก ไม้ผล ดอกไม้ ธัญพืชและพืชพิเศษ มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 0.5 เฮกตาร์ขึ้นไป และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับข้อกำหนด

B. นายจ้างประกอบกิจการเพาะปลูกต้นกล้าข้าว มีพื้นที่สีเขียวสำหรับเพาะต้นกล้าข้าวมากกว่า 3 เฮกตาร์ขึ้นไป มีใบรับรองจดทะเบียนธุรกิจต้นกล้า และมีประวัติเข้าร่วมการเพาะพันธุ์ข้าวระดับสามในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับข้อกำหนด

(3) การเพาะปลูกพืชผัก : มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 1 เฮกตาร์ขึ้นไป และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

A. ชาวเกษตรหรือกลุ่มชาวเกษตรที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรา 3 ของระเบียบพัฒนาเกษตรกรรม

B. หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการผักจริง

(4) การเพาะปลูกไม้ผล : มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 2 เฮกตาร์ขึ้นไป และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

A. ชาวเกษตรหรือกลุ่มชาวเกษตรที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรา 3 ของระเบียบพัฒนาเกษตรกรรม

B. หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการไม้ผลจริง

(5) การเพาะปลูกธัญพืช : มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 10 เฮกตาร์ขึ้นไป และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

A. ชาวเกษตรหรือกลุ่มชาวเกษตรที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรา 3 ของระเบียบพัฒนาเกษตรกรรม

B. หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการธัญพืชจริง

(6) การเพาะปลูกพืชพิเศษ : มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 2 เฮกตาร์ขึ้นไป และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

A. ชาวเกษตรหรือกลุ่มชาวเกษตรที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรา 3 ของระเบียบพัฒนาเกษตรกรรม

B. หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการพืชพิเศษจริง

(7) การเพาะปลูกเกษตรในอาคาร : มีขนาดการผลิตจริงมากกว่า 0.5 เฮกตาร์หรือมากกว่า 225,000 ถุงขึ้นไป และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

A. ชาวเกษตรหรือกลุ่มชาวเกษตรที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรา 3 ของระเบียบพัฒนาเกษตรกรรม

B. หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการเกษตรในอาคารจริง

3. งานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ : มีใบรับรองจดทะเบียนธุรกิจเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่อนุมัติโดยกระทรวงเกษตร ใบอนุญาตสิทธิ์การประมงแบบแบ่งเขต หรือใบรับรองทำประมงที่ออกโดยผู้มีอำนาจทางอุตสาหกรรมประมง และเสร็จสิ้นการรายงานปริมาณปล่อยเลี้ยงในปีปัจจุบันหรือปีก่อนหน้านี้ และผ่านการรับรองโดยกระทรวงเกษตร

4. งานป่าไม้ : นายจ้างประกอบธุรกิจป่าไม้หรือประกอบการเพาะต้นกล้า (รวมถึงการเก็บเมล็ดพันธุ์) การปลูกป่าและการดูแล การตัดไม้ (รวมถึงการผลิต การรวบรวมและการขนส่ง) และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

(1) หน่วยงานธุรกิจที่ประกอบกิจการป่าไม้จริง และสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

A. บริษัทที่จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นตามกฎหมาย รายการธุรกิจจะต้องระบุถึงการดำเนินธุรกิจเพาะต้นกล้า การปลูกป่าและดูแล การตัดไม้ เป็นต้น

B. รับเหมางานป่าไม้ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐบาลภายใน 3 ปี และมีการรับเหมามากกว่า 5 ครั้งขึ้นไป

(2) องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ หน่วยงานธุรกิจการเกษตรและเจ้าของพื้นที่ป่าเอกชน (บุคคลธรรมดา) ที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาล มีพื้นที่ป่ามากกว่า 30 เฮกตาร์ขึ้นไป

5. งานปุ๋ยหมักมูลสัตว์ : โรงหมักปุ๋ยที่มีใบอนุญาตดำเนินธุรกิจโรงหมักปุ๋ยมูลสัตว์ที่อนุมัติโดยกระทรวงเกษตร และกระทรวงเกษตรรับรองว่าสอดคล้องกับหนึ่งในคุณสมบัติดังต่อไปนี้

คุณสมบัติชาวต่างชาติ : อายุครบ 16 ปีขึ้นไป และทำงานที่ไต้หวันสะสมไม่เกิน 12 ปี

  • วันที่ประกาศ :2024/04/10
  • วันที่อัพเดท :2024/07/04

แบบคำขอหรือเอกสาร

แบบคำขอหรือเอกสาร:

แบบคำขอหรือเอกสาร

  • วันที่ประกาศ :2024/04/10
  • วันที่อัพเดท :2024/07/04

เว็บไซต์ยื่นขอ

เว็บไซต์ยื่นขอ:

สอบถามความคืบหน้าของการยื่นขอ

  • วันที่ประกาศ :2024/04/10
  • วันที่อัพเดท :2024/07/04

เว็บไซต์ยื่นขอ

เว็บไซต์ยื่นขอ:

Q1: แรงงานข้ามชาติได้กำหนดเวลาทำงานหรือไม่?

A: เนื่องจากบังคับใช้กฎหมายแรงงานมาตรฐาน เวลาทำงานในแต่ละวันห้ามเกิน 8 ชั่วโมง เวลาทำงานรวมในแต่ละสัปดาห์ไม่เกิน 40 ชั่วโมง ชั่วโมงโอทีให้ดำเนินการตามกฎหมายแรงงานมาตรฐาน

Q2: ข้อกำหนดระหว่างวันหยุดประจำ วันหยุด วันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดพักร้อนมีความแตกต่างอย่างไร??

A: แรงงานประเภทการเกษตรเนื่องจากได้บังคับใช้กฎหมายแรงงานมาตรฐาน ทุก 7 วันจะต้องมีการพักผ่อน 2 วัน โดย 1 วันเป็นวันหยุดประจำ อีก 1 วันเป็นวันหยุด นอกจากนี้ วันรำลึก วันเทศกาล วันแรงงานและวันหยุดที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้ต้องหยุด และวันหยุดอื่น ๆ ตามที่หน่วยงานผู้มีอำนาจส่วนกลางกำหนด จะต้องให้หยุดพัก หลังจากทำงานครบช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ควรให้การพักร้อนพิเศษ

Q3: แรงงานข้ามชาติลาพักกลับบ้านเกิด นายจ้างปฏิเสธได้หรือไม่? มีบทลงโทษหรือไม่?

A: ตามมาตรา 52 ของกฎหมายบริการจัดหางานได้กำหนดไว้ว่าแรงงานข้ามชาติสามารถขอลากลับประเทศในระหว่างอนุญาตจ้างงาน นายจ้างควรให้ความยินยอม หากนายจ้างมีกรณีปฏิเสธไม่ให้แรงงานข้ามชาติลาหยุดกลับประเทศ หลังจากหน่วยงานผู้มีอำนาจตรวจสอบแล้วว่าเป็นความจริง และไม่ทำการปรับปรุงหลังจากพ้นระยะเวลาปรับปรุง ตามข้อกำหนดมาตรา 57 วรรค 9 และมาตรา 72 ของกฎหมายบริการจัดหางาน จะทำการเพิกถอนใบอนุญาตในการรับสมัครและว่าจ้างแรงงานข้ามชาติของนายจ้าง พร้อมลงโทษปรับ 6 หมื่นถึง 3 แสนดอลลาร์ไต้หวันใหม่

Q4: นายจ้างยินยอมให้แรงงานข้ามชาติหยุดพักเพื่อกลับประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบินกลับประเทศดังกล่าวควรให้ใครรับผิดชอบ?

A: นายจ้างที่อนุญาตให้แรงงานข้ามชาติหยุดพักเพื่อกลับประเทศตามข้อกำหนด สำหรับความรับผิดชอบในเรื่องตั๋วเครื่องบินกลับประเทศนั้น ควรเป็นการตกลงของทั้งสองฝ่ายบนพื้นฐานของหลักอิสรภาพของสัญญาและความซื่อสัตย์

Q5: สำหรับการจ่ายเงินเดือนในแต่ละเดือน นายจ้างจะต้องระวังสิ่งใดเป็นพิเศษ? ในเงินเดือนที่จ่ายให้กับแรงงานข้ามชาตินั้น มีรายการอะไรบ้างที่สามารถหักล่วงหน้า?

A: รายละเอียดสลิปเงินเดือนที่นายจ้างให้กับแรงงานข้ามชาติจะต้องใช้รูปแบบภาษาบ้านเกิด และสำหรับเงินเดือนที่จ่ายให้กับแรงงานข้ามชาติ นอกเหนือจากรายการหักตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ค่าประกันสุขภาพแห่งชาติ ค่าประกันแรงงาน ค่าที่พักและอาหารและเงินสวัสดิการพนักงานแล้ว เงินเดือนอื่น ๆ จะต้องชำระในยอดเต็ม

   นายจ้างประเภทธุรกิจสามารถหักภาษีเงินได้ล่วงหน้าตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้ ถึงแม้แรงงานข้ามชาติได้ออกหนังสือยินยอม นายจ้างก็ไม่สามารถหักล่วงหน้า

  • วันที่ประกาศ :2024/04/10
  • วันที่อัพเดท :2024/07/04