มาตรฐานด้านคุณสมบัติ (คุณสมบัติของชาวต่างชาติและนายจ้าง) ：

◎คุณสมบัติของนายจ้าง : สอดคล้องกับหนึ่งในเงื่อนไขต่อไปนี้

 1. สำหรับกระบวนการผลิตเฉพาะเจาะจง : ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้กระบวนการผลิตเฉพาะเจาะจง (ก็คือกระบวนการผลิต 3K) ที่กำหนดโดยกระทรวงแรงงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

 2. กรณีลงทุนเพิ่มใหม่ในประเทศ : ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตที่สอดคล้องกับกระบวนการผลิตเฉพาะเจาะจงและธุรกิจที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดโดยกระทรวงแรงงาน และจัดตั้งโรงงานใหม่ระหว่างวันที่ 13 มีนาคม 2556 ถึง 31 ธันวาคม 2557 พร้อมได้รับเอกสารรับรองการจดทะเบียนจัดตั้งโรงงาน

 3. กรณีนักธุรกิจไต้หวันกลับมาลงทุนเพิ่มที่ไต้หวัน : ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตที่ลงทุนในพื้นที่ต่างประเทศ 2 ปีขึ้นไป สอดคล้องกับกระบวนการะผลิตเฉพาะเจาะจงและธุรกิจที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดโดยกระทรวงแรงงาน และจัดตั้งโรงงานใหม่ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปีหลังจากที่กรมพัฒนาอุตสาหกรรมกระทรวงเศรษฐกิจได้อนุมัติออกหนังสือรับรองคุณสมบัตินักธุรกิจไต้หวัน ได้รับเอกสารรับรองการจดทะเบียนโรงงาน และยอดลงทุนและจำนวนแรงงานในประเทศที่ว่าจ้างสอดคล้องกับหนึ่งในเงื่อนไขดังต่อไปนี้ :

(1) ยอดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่า 5 ร้อยล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ขึ้นไป หรือยอดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตอื่น ๆ มากกว่า 1 ร้อยล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ขึ้นไป

(2) ว่าจ้างแรงงานภายในประเทศ 100 คนขึ้นไปภายใน 1 ปีตั้งแต่วันที่อนุมัติรับรองการจดทะเบียนโรงงานตามแผนการลงทุนใหม่

4. โครงการปฏิบัติต้อนรับนักธุรกิจไต้หวันกลับมาลงทุนที่ไต้หวัน : ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตจะต้องสอดคล้องกับโครงการปฏิบัติต้อนรับนักธุรกิจไต้หวันกลับมาลงทุนที่ไต้หวันที่สภาบริหารได้อนุมัติในวันที่ 7 ธันวาคม 2561 จะต้องยื่นขอการรับรองกับกระทรวงเศรษฐกิจเพื่อรับหนังสือรับรองก่อน เวลายื่นขอการรับรองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

◎มาตราการนำเข้าแรงงานข้ามชาติสำหรับโครงการปฏิบัติต้อนรับนักธุรกิจไต้หวันกลับมาลงทุนที่ไต้หวัน : นักธุรกิจไต้หวันที่สอดคล้องกับเกณฑ์จัดตั้งโรงงานใหม่หรือขยายโรงงานระดับหนึ่งขึ้นไป ยอดเงินลงทุนระดับหนึ่งขึ้นไป สร้างโอกาสงานแก่แรงงานในประเทศระดับหนึ่งขึ้นไป หากต้องการว่าจ้างแรงงานข้ามชาติ สามารถใช้โควต้าแรงงานข้ามชาติล่วงหน้า ยกเว้นการตรวจสอบประจำใน 1 ปี และระบบ Extra เพิ่มขึ้นอีก 15% แต่สัดส่วนทั้งหมดห้ามเกิน 40%

5. โครงการปฏิบัติเติมเต็มกำลังคนอุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง : ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตจะต้องสอดคล้องกับโครงการปฏิบัติเติมเต็มกำลังคนของอุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่อนุมัติโดยสภาบริหารในวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 จะต้องยื่นขอการรับรองกับกระทรวงเศรษฐกิจเพื่อรับหนังสือรับรองก่อน เวลายื่นขอการรับรองตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

◎มาตราการนำเข้าแรงงานข้ามชาติสำหรับโครงการปฏิบัติเติมเต็มกำลังคนอุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง : ผู้ประกอบการไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่สอดคล้องกับเกณฑ์จัดตั้งโรงงานใหม่หรือขยายโรงงานระดับหนึ่งขึ้นไป ยอดเงินลงทุนระดับหนึ่งขึ้นไป สร้างโอกาสงานแก่แรงงานในประเทศระดับหนึ่งขึ้นไป และกรมพัฒนาอุตสาหกรรมกระทรวงเศรษฐกิจเห็นว่าเหมาะสมกับโครงการนี้ หากต้องการว่าจ้างแรงงานข้ามชาติ สามารถใช้โควต้าแรงงานข้ามชาติล่วงหน้า ยกเว้นการตรวจสอบประจำใน 1 ปี และระบบ Extra เพิ่มขึ้นอีก 10% แต่สัดส่วนทั้งหมดห้ามเกิน 40%

◎ระบบระดับ 3K5 ของอุตสาหกรรมการผลิต : แบ่งเป็นระดับ A+ (สัดส่วนโควต้า 35%) ระดับ A (สัดส่วนโควต้า 25%) ระดับ B (สัดส่วนโควต้า20%) ระดับ C (สัดส่วนโควต้า 15%) ระดับ D (สัดส่วนโควต้า 10%)

◎ระบบเพิ่มจำนวนแรงงานข้ามชาติจากการค่าประกันการจ้างงานเพิ่มเติม (ระบบ Extra) : ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มค่าประกันการจ้างงาน (3,000 5,000 7,000 9,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่) ในแต่ละเดือน ก็สามารถเพิ่มสัดส่วนโควต้าแรงงานข้ามชาติ 5% 10% 15% 20% สูงสุด 40%

◎ระบบเพิ่มโควต้า 5% จากการรับช่วงในประเทศ : สามารถใช้กับกิจการระบบระดับ 3K5 ของอุตสาหกรรมการผลิต สามารถว่าจ้างแรงงานข้ามชาติที่มีประสบการณ์การผลิตต่อ เพิ่มโควต้าแรงงานข้ามชาติ 5% โดยยกเว้นการตรวจสอบประจำ ค่าประกันการจ้างงานต่อเดือน 2,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งต่ำกว่าระบบ Extra

◎สัดส่วนระดับ 3K5 ของอุตสาหกรรมการผลิต สัดส่วนโควต้า Extra จากการค่าประกันการจ้างงานเพิ่มเติม เพิ่มโควต้า 5% จากการรับช่วงในประเทศ สัดส่วนแรงงานข้ามชาติทั้ง 3 อย่างข้างต้นรวมกันห้ามเกิน 40% มาตรฐานในการคำนวณสัดส่วนโควต้าให้คำนวณจากจำนวนพนักงานที่ว่าจ้างโดยเฉลี่ย 1 ปีนับจาก 2 เดือนก่อนเดือนที่นายจ้างยื่นขอ

◎คุณสมบัติชาวต่างชาติ : อายุ 16 ปีขึ้นไป (รวม) แต่สะสมช่วงเวลาทำงานในไต้หวันห้ามเกิน 12 ปี

แบบคำขอหรือเอกสาร：

แบบคำขอหรือเอกสาร

เว็บไซต์ยื่นขอ：

สอบถามความคืบหน้าของการยื่นขอ

เว็บไซต์ยื่นขอ：

Q1: แรงงานข้ามชาติได้กำหนดเวลาทำงานหรือไม่?

A: เนื่องจากแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมการผลิตให้บังคับใช้กฎหมายแรงงานมาตรฐาน เวลาทำงานในแต่ละวันห้ามเกิน 8 ชั่วโมง เวลาทำงานรวมในแต่ละสัปดาห์ไม่เกิน 40 ชั่วโมง ชั่วโมงโอทีให้ดำเนินการตามกฎหมายแรงงานมาตรฐาน

Q2: ข้อกำหนดระหว่างวันหยุดประจำ วันหยุด วันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดพักร้อนมีความแตกต่างอย่างไร?

A: แรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมการผลิตเนื่องจากได้บังคับใช้กฎหมายแรงงานมาตรฐาน ทุก 7 วันจะต้องมีการพักผ่อน 2 วัน โดย 1 วันเป็นวันหยุดประจำ อีก 1 วันเป็นวันหยุด นอกจากนี้วันรำลึก วันเทศกาล วันแรงงานและวันหยุดที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้ต้องหยุด และวันหยุดอื่น ๆ ตามที่หน่วยงานผู้มีอำนาจส่วนกลางกำหนด จะต้องให้หยุดพัก หลังจากทำงานครบช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ควรให้การพักร้อนพิเศษ

Q3: แรงงานข้ามชาติลาพักกลับบ้านเกิด นายจ้างปฏิเสธได้หรือไม่? มีบทลงโทษหรือไม่?

A: ตามมาตรา 52 ของกฎหมายบริการจัดหางานได้กำหนดไว้ว่าแรงงานข้ามชาติสามารถขอลากลับประเทศในระหว่างอนุญาตจ้างงาน นายจ้างควรให้ความยินยอม หากนายจ้างมีกรณีปฏิเสธไม่ให้แรงงานข้ามชาติลาหยุดกลับประเทศ หลังจากหน่วยงานผู้มีอำนาจตรวจสอบแล้วว่าเป็นความจริง และไม่ทำการปรับปรุงหลังจากพ้นระยะเวลาปรับปรุง ตามข้อกำหนดมาตรา 57 วรรค 9 และมาตรา 72 ของกฎหมายบริการจัดหางาน จะทำการเพิกถอนใบอนุญาตในการรับสมัครและว่าจ้างแรงงานข้ามชาติของนายจ้าง พร้อมลงโทษปรับ 6 หมื่นถึง 3 แสนดอลลาร์ไต้หวันใหม่

Q4: นายจ้างยินยอมให้แรงงานข้ามชาติหยุดพักเพื่อกลับประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบินกลับประเทศดังกล่าวควรให้ใครรับผิดชอบ?

A: นายจ้างที่อนุญาตให้แรงงานข้ามชาติหยุดพักเพื่อกลับประเทศตามข้อกำหนด สำหรับความรับผิดชอบในเรื่องตั๋วเครื่องบินกลับประเทศนั้น ควรเป็นการตกลงของทั้งสองฝ่ายบนพื้นฐานของหลักอิสรภาพของสัญญาและความซื่อสัตย์

Q5: นายจ้างสามารถสั่งให้แรงงานข้ามชาติที่ว่าจ้างควบคุมปั้นจั่น เครนหรือรถยกได้หรือไม่?

A: นายจ้างสามารถมอบหมายให้แรงงานข้ามชาติที่ว่าจ้างปฏิบัติงานการผลิต และหลังจากเข้าร่วมการฝึกอบรมก่อนปฏิบัติงานตามข้อกำหนดและสอบใบอนุญาตได้แล้ว สามารถปฏิบัติงานควบคุมรถยก เครนบนที่สูงหรือปั้นจั่นที่เกี่ยวข้องกับงานภาคปฏิบัติในการผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม"เป็นระยะ" แต่ถ้านายจ้างมอบหมายให้แรงงานข้ามชาติรับผิดชอบงานที่กล่าวข้างต้นโดยเฉพาะ จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดมาตรา 57 วรรค 3 ของกฎหมายบริหารจัดหางาน

Q6: สำหรับการจ่ายเงินเดือนในแต่ละเดือน นายจ้างจะต้องระวังสิ่งใดเป็นพิเศษ? ในเงินเดือนที่จ่ายให้กับแรงงานข้ามชาตินั้น มีรายการอะไรบ้างที่สามารถหักล่วงหน้า?

A: รายละเอียดสลิปเงินเดือนที่นายจ้างให้กับแรงงานข้ามชาติจะต้องใช้รูปแบบภาษาบ้านเกิด และสำหรับเงินเดือนที่จ่ายให้กับแรงงานข้ามชาติ นอกเหนือจากรายการหักตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ค่าประกันสุขภาพแห่งชาติ ค่าประกันแรงงาน ค่าที่พักและอาหารและเงินสวัสดิการพนักงานแล้ว เงินเดือนอื่น ๆ จะต้องชำระในยอดเต็ม นายจ้างประเภทธุรกิจสามารถหักภาษีเงินได้ล่วงหน้าตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้ ถึงแม้แรงงานข้ามชาติได้ออกหนังสือยินยอม นายจ้างก็ไม่สามารถหักล่วงหน้า

Q7: ข้อกำหนดในการโยกย้าย

1. อุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป :

1. โรงงาน (โรงงาน ก) โยกย้ายไปโรงงาน (โรงงาน ข) :

(1) นายจ้างคนเดียวกันมีโรงงานการผลิต ก และ ข สองแห่งขึ้นไป สามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวง

(2) จำนวนชาวต่างชาติที่โยกย้ายจากโรงงาน ก ไปทำงานที่โรงงาน ข จากนายจ้างคนเดียวเดียวและจำนวนชาวต่างชาติที่ว่าจ้างเดิมของโรงงาน ข รวมกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนพนักงานไต้หวันที่ว่าจ้างในโรงงาน ข

2. โรงงาน (โรงงาน ก) โยกย้ายไปโรงงานเช่า (โรงงาน ข) :

(1) นายจ้างเช่าโรงงานจากผู้อื่น (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) โดยมีการจัดทำสัญญาเช่าและมีการรับรองจากศาลหรือผู้รับรองเอกชน สามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวง

(2) จำนวนชาวต่างชาติที่โยกย้ายจากโรงงาน ก ไปทำงานที่โรงงาน ข จากนายจ้างและจำนวนชาวต่างชาติที่ว่าจ้างเดิมของโรงงาน ข รวมกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนพนักงานไต้หวันที่ว่าจ้างในโรงงาน ข

2. การลงทุนสำคัญและอุตสาหกรรมการผลิตที่มีกระบวนการเฉพาะเจาะจง :

1. นายจ้างคนเดียวกันมีโรงงานอุตสาหกรรมการผลิต ก และ ข สองแห่งขึ้นไป ซึ่งโรงงาน ก มีการปิดกิจการ (ยกเลิก) การจัดโครงสร้างบ้านเลขที่ การย้านอุปกรณ์ทั้งหมด และโรงงาน ก และ ข ทั้งสองมีคุณสมบัติอุตสาหกรรมการผลิตกระบวนการเฉพาะเจาะจงในระดับเดียวกัน นายจ้างจะต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นขออนุญาตจากทางกระทรวงแล้ว จึงสามารถโยกย้ายชาวต่างชาติที่ว่าจ้างในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงงาน ข

2. นายจ้างคนเดียวกันมีโรงงานอุตสาหกรรมการผลิต ก และ ข สองแห่งขึ้นไป ต่างมีคุณสมบัติเป็นอุตสาหกรรมการผลิตกระบวนการเฉพาะเจาะจงตามข้อกำหนดมาตรา 25 ของมาตรฐานการตรวจสอบและอยู่ในระดับเดียวกัน เนื่องจากมีการย้ายอุปกรณ์บางส่วน สามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวง แต่จำนวนชาวต่างชาติที่โยกย้ายจากโรงงาน ก ไปทำงานที่โรงงาน ข จากนายจ้างและจำนวนชาวต่างชาติที่ว่าจ้างเดิมของโรงงาน ข รวมกันแล้วจะต้องไม่เกินสัดส่วนของจำนวนพนักงานที่ว่าจ้างตามข้อกำหนดในมาตรา 25 ของมาตรฐานการตรวจสอบของโรงงาน ข

3. นายจ้างคนเดียวกันมีโรงงานอุตสาหกรรมการผลิต ก และ ข สองแห่งขึ้นไป ต่างมีคุณสมบัติเป็นอุตสาหกรรมการผลิตกระบวนการเฉพาะเจาะจงตามข้อกำหนดมาตรา 25 ของมาตรฐานการตรวจสอบและอยู่ในระดับเดียวกัน และมีหมายเลขบัตรประกันแรงงานเหมือนกันกัน เนื่องจากมีการย้ายอุปกรณ์บางส่วน สามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ที่ว่าจ้างตามข้อกำหนดในมาตรา 26 ของมาตรฐานการตรวจสอบไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวง แต่จำนวนชาวต่างชาติที่โยกย้ายจากโรงงาน ก ไปทำงานที่โรงงาน ข จากนายจ้างและจำนวนชาวต่างชาติที่ว่าจ้างเดิมของโรงงาน ข รวมกันแล้วจะต้องไม่เกินสัดส่วนของจำนวนพนักงานที่นายจ้างว่าจ้างตามข้อกำหนดในมาตรา 25 และมาตรา 26 ของมาตรฐานการตรวจสอบของโรงงาน ข

4. นายจ้างคนเดียวกันที่มีโรงงาน ก ที่สอดคล้องกับคุณสมบัติอุตสาหกรรมการผลิตกระบวนการเฉพาะเจาะจงตามข้อกำหนดมาตรา 25 ของมาตรฐานการตรวจสอ และโรงงาน ข ที่สอดคล้องกับเงื่อนไขดังต่อไปนี้ เนื่องจากมีการย้ายอุปกรณ์บางส่วน สามารถโยกย้ายตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้ :

1. ยังไม่มีใบรับรองการจดทะเบียนโรงงานชั่วคราวก่อนวันที่ 2 มีนาคม 2020 รอหลังจากได้รับใบรับรองจดทะเบียนโรงงานเฉพาะเจาะจงแล้ว สามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวง
2. ก่อนวันที่ 19 มีนาคม 2567 ผู้ที่ได้รับอนุมัติแผนการปรับปรุงโรงงานจากการตรวจสอบของรัฐบาล และออกเอกสารอนุมัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยป้องกันอัคคีภัยในสถานที่ต่าง ๆ และระเบียบการจัดการความปลอดภัยและมาตรฐานของอุปกรณ์ในสถานที่ผลิตและจัดเก็บวัตถุอันตรายสาธารณะและก๊าซแรงดันสูงไวไฟ (ต่อไปนี้เรียกว่ามาตรฐานป้องกันอัคคีภัย) หรือมีมาตรฐานป้องกันอัคคีภัยที่ผ่านการรับรองยืนยันจากวิศวกรอุปกรณ์ดับเพลิง และหนังสือแจ้งซ่อมบำรุงที่ออกโดยเจ้าหน้าเทคนิคดับเพลิงเฉพาะทาง สามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางกระทรวง
3. ก่อนวันที่ 19 มีนาคม 2566 ได้ยื่นแผนการปรับปรุงโรงงานกับรัฐบาลท้องถิ่น แต่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่น หลังจากรัฐบาลท้องถิ่นออกเอกสารรับรองการรับเรื่องแผนการปรับปรุงโรงงาน และเอกสารอนุมัติผ่านเกณฑ์มาตรฐานป้องกันอัคคีภัย หรือมีมาตรฐานป้องกันอัคคีภัยที่ผ่านการรับรองยืนยันจากวิศวกรอุปกรณ์ดับเพลิง และเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นขออนุญาตกับทางกระทรวงแล้ว จึงสามารถโยกย้ายชาวต่างชาติในโรงงาน ก ไปทำงานการผลิตที่โรงาน ข โดยระยะเวลาอนุญาตนานสุดไม่เกิน 2 ปี และสถานที่พักของชาวต่างชาติห้ามตั้งอยู่ในโรงงาน ข

5. ตามข้อกำหนดรายการข้างต้น จำนวนชาวต่างชาติตามที่กำหนดในมาตรฐานการตรวจสอบมาตรา 25 มาตรา 25/1 และมาตรา 26 ที่โยกย้ายจากโรงงาน ก ไปทำงานที่โรงงาน ข จากนายจ้างคนเดียวกัน รวมกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละของจำนวนพนักงานที่นายจ้างว่าจ้างตามข้อกำหนดในมาตรา 25 และมาตรา 26 ของมาตรฐานการตรวจสอบของโรงงาน ข

6. จำนวนชาวต่างชาติที่โยกย้ายจากโรงงาน ก ไปทำงานที่โรงงาน ข จากนายจ้างและจำนวนชาวต่างชาติที่ว่าจ้างเดิมของโรงงาน ข จะต้องอยู่ในการตรวจสอบประจำของทางกระทรวงในเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคมและพฤศจิกายนของทุกปี และสัดส่วนของชาวต่างชาติหรือจำนวนชาวต่างชาติที่นายจ้างว่าจ้างนั้นห้ามเกินข้อกำหนดของ "เกณฑ์มาตรฐานในการตรวจสอบประจำสำหรับนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติปฏิบัติงานการผลิต"